ประโยชน์น้ำมันมะพร้าว
-
น้ำมันมะพร้าวใช้ทาผิวเพื่อบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใสไม่แห้งกร้าน
-
ช่วยในการชะลอวัย ชะลอความเสื่อมของร่างกาย เพราะน้ำมันมะพร้าวมีบทบาทในการช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระได้เป็นอย่างดี
-
ไม่ทำให้อ้วน เป็นตัวช่วยเสริมสำหรับผู้ที่ต้องการลดความอ้วน เนื่องจากน้ำมันมะพร้าวมีโมเลกุลขนาดกลางจึงถูกย่อยได้เร็วไม่มีการสะสมในร่างกาย โมเลกุลตัวนี้จะไปกระตุ้นกระบวนการเมตาบอลิซึม ทำให้แคลอรีที่เรารับประทานเข้าไปในรูปของอาหารถูกเผาผลาญไป ทำให้เหลือสะสมไขมันในร่างกายน้อยลง
-
ช่วยลดน้ำหนักแบบทางอ้อม ด้วยการเพิ่มเมตาบอลิซึมทำให้เกิดความร้อน ทำให้อุณหภูมิร่างกายเพิ่มขึ้น ทำให้ต่อมไทรอยด์ทำงานได้ดีขึ้น จึงช่วยลดน้ำหนักได้
-
ช่วยทำให้รับประทานอาหารมื้อต่อไปได้น้อยลง ช่วยยืดและชะลอความหิวออกไปให้นานขึ้น จึงเหมาะอย่างมากสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก
-
ช่วยล้างพิษ ขับพิษของเสียออกจากร่างกายหรือช่วยดีท็อกซ์
-
ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย
-
ช่วยบำรุงกำลัง
-
เป็นอาหารให้แก่เซลล์ต่าง ๆ ในร่างกาย
-
ช่วยทำให้ร่างกายปลอดเชื้อโรค
-
ช่วยบำรุงหัวใจ ทำให้หัวใจมีสุขภาพดีและแข็งแรง
-
ช่วยป้องกันการเกิดโรคหัวใจ ด้วยการช่วยเพิ่มไขมันชนิดดี (HDL) และไปช่วยลดไขมันเลว (LDL) ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดโรคหัวใจ
-
ช่วยในการขยายหลอดเลือดและป้องกันการแข็งตัวของหลอดเลือดซึ่งเป็นสาเหตุของโรคหัวใจ
-
ช่วยลดอัตราความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็ง
-
ช่วยป้องกันการกลายพันธุ์ของเซลล์ไม่ให้เกิดเป็นเซลล์มะเร็ง
-
ช่วยรักษาและบรรเทาอาการของโรคเบาหวานให้หายขาด
-
ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของตับอ่อนในการสร้างอินซูลิน จึงดีต่อผู้เป็นโรคเบาหวาน
-
ช่วยทำให้ผู้ป่วยเบาหวานไม่ต้องฉีดอินซูลินทุกครั้งที่น้ำตาลในเลือดมีระดับสูง
-
ช่วยลดการเจริญเติบโตของเนื้องอก
-
ช่วยรักษาคางทูม ด้วยการใช้น้ำมันมะพร้าวทาบริเวณที่เป็นคางทูมบ่อย ๆ วันละ 3 ครั้ง ประมาณ 3 วันอาการจะดีขึ้น (น้ำมันมะพร้าว)
-
ช่วยรักษาผู้ป่วยโรคท้องมาน (As cites) (น้ำมันมะพร้าวอ่อน)
-
ใช้เป็นยารักษาโรคอหิวาตกโรค (น้ำมันมะพร้าวอ่อน)
-
ช่วยระบายท้อง ทำให้ขับถ่ายง่ายขึ้น
-
น้ำมันมะพร้าวมีส่วนช่วยบำบัดรักษาโรคกระดูกไขข้อ
-
มีการใช้น้ำมันมะพร้าวผสมขี้ผึ้งหรือทำเป็นน้ำมันเหลือง ใช้นวดทาแก้อาการปวดเมื่อยตามร่างกายได้เป็นอย่างดี
-
ช่วยรักษาแผลเรื้อรังที่เกิดจากการเป็นโรคเบาหวานมานานได้
-
ใช้ทาแก้แผลน้ำร้อนลวกได้ (น้ำมันมะพร้าว)
-
ช่วยสมานแผลไฟไหม้ได้เป็นอย่างดี
-
น้ำมันมะพร้าวช่วยลดอาการอักเสบของผิวหนังได้
-
ใช้เป็นยารักษาแผลเน่าเปื่อย
-
ใช้รักษาอาการผดผื่นคันตามผิวหนังได้
-
สามารถใช้รักษาโรคผิวหนังได้ (น้ำมันมะพร้าว)
-
ช่วยแก้ชันนะตุพุพอง ด้วยการใช้น้ำมันมะพร้าวผสมเหง้า ขมิ้นชัน สารส้มเล็กน้อย แล้วนำมาทาบริเวณที่เป็น (จะใช้น้ำมันมะพร้าวอย่างเดียวก็ได้)
-
ช่วยรักษารังแคและเชื้อราบนหนังศีรษะ ด้วยการใช้น้ำมันมะพร้าวที่ได้จากการเคี่ยวน้ำกะทิแก่จัด แล้วนำมาทาบริเวณศีรษะทิ้งไว้ 30 นาที แล้วสระออกด้วยแชมพู โดยให้ใช้สัปดาห์ละ 2 ครั้ง (น้ำมันมะพร้าว)
-
ช่วยรักษาโรคน้ำกัดเท้า ด้วยการใช้น้ำมันมะพร้าวผสมกับสารส้ม น้ำปูนใส และเกลืออย่างละนิด ผสมให้เข้ากันแล้วเอามาทาบริเวณที่เป็นบ่อย ๆ จะทำให้หายเร็วขึ้น (น้ำมันมะพร้าว)
-
น้ำมันมะพร้าวมีคุณสมบัติเป็นยาฆ่าเชื้อโรคต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น เชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา เชื้อยีสต์ เชื้อไวรัส โปรโตซัว โดยไม่ทำให้เกิดอาการดื้อยาของเชื้อโรค และสามารถช่วยฆ่าเชื้อโรคบางชนิดที่เกราะไขมันห่อหุ้มเซลล์ ซึ่งยาปฏิชีวนะทั่วไปไม่สามารถฆ่าได้
-
น้ำมันมะพร้าวหมักผม ช่วยบำรุงเส้นผมทำให้ผมดกดำ ทำให้สวยเงางามอย่างเป็นธรรมชาติ ด้วยการชโลมน้ำมันมะพร้าวให้ทั่วหนังศีรษะ ในปริมาณที่เหมาะสม แล้วนวดหนังศีรษะจนน้ำมันซึมทั่วหนังศีรษะ เส้นผม ปลายผม แล้วทิ้งไว้อย่างน้อย 15 นาทีแล้วค่อยสระออก (น้ำมันมะพร้าว)
-
ช่วยบำรุงผมเสีย แก้ปัญหาผมร่วง ผมแตกปลาย ด้วยการใช้น้ำมันมะพร้าวชโลมผมตอนแห้งแล้วทิ้งไว้ 30 นาทีแล้วสระออก จะทำให้เส้นผมนุ่มสลวย ไม่พันกัน เส้นผมตรงมากยิ่งขึ้น
-
น้ำมันมะพร้าวช่วยป้องกันผมร่วง ผมหงอกได้
-
น้ำมันมะพร้าวทาหน้า ช่วยบำรุงผิวให้นุ่มชุ่มชื้น แนะนำให้ใช้เฉพาะตอนกลางคืนหรือช่วงก่อนเข้านอน
-
ใช้ทาหน้าท้องระหว่างตั้งครรภ์ จะช่วยทำให้ผิวบริเวณนี้มีความชุ่มชื้นไม่แห้งแตกลายได้
-
น้ำมันมะพร้าวใช้ทาช่วยแก้อาการผิวแห้ง ผิวแตก ผิวลอก ผิวเป็นขุยได้
-
น้ำมันมะพร้าว (ได้จากการต้มกากมะพร้าวบดหรือการบีบ) สามารถนำไปใช้ทำอาหารได้หรือใช้ผลิตเป็นเครื่องสำอางก็ได้
-
น้ำมันมะพร้าวมีกรดลอริค (Lauric acid) สูงมาก ซึ่งเป็นชนิดเดียวกันกับกรดไขมันที่มีในนมแม่ เมื่อบริโภคเข้าไปจะถูกเปลี่ยนเป็นโมโนลอรินที่มีฤทธิ์ในการช่วยฆ่าเชื้อโรคต่าง ๆ เช่น แบคทีเรีย เชื้อรา ไวรัส ยีสต์ โปรโตซัว เป็นต้น
-
น้ำมันมะพร้าวสามารถนำมาใช้ทาผิวเพื่อป้องกันแสงแดด และยังป้องกันโรคมะเร็งจากแสงแดดได้อีกด้วย (แต่ใช้กันแดดจะดีกว่านะ)
-
ใช้ทาผิวหลังอาบน้ำเพื่อป้องกันรอยหมองคล้ำจากแสงแดด ซึ่งจะช่วยทำให้ผิวที่มีรอยหมองคล้ำค่อย ๆ จางหายไปได้
-
ใช้เป็นส่วนประกอบสำคัญในเครื่องสำอางหลายชนิด ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยในการทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์และชะลอการเกิดริ้วรอย
-
แก้ปัญหาส้นเท้าแตก ด้วยการทาน้ำมันมะพร้าวและนวดคลึงทุกวันก่อนนอนติดต่อกันประมาณ 1 สัปดาห์ เมื่อหายแล้วให้ใช้ต่อไปเรื่อย ๆ รอยแตกจะไม่กลับมากวนใจคุณอีก
-
ใช้เป็นคลีนซิ่งออยล์ทำความสะอาดผิวและยังมีส่วนช่วยในผลัดเซลล์ผิวอีกด้วย จึงช่วยทำให้ผิวใสอย่างเป็นธรรมชาติ
-
น้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์ใช้นวดเพื่อกระตุ้นความรู้สึกทางเพศได้
-
น้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์สามารถนำมาใช้กับกิจกรรมทางเพศได้ ด้วยการนำมาใช้แทนสารหล่อลื่นธรรมชาติ เนื่องจากมีคุณสมบัติคล้ายสารหล่อลื่นในช่องคลอด
-
น้ำมันมะพร้าวสามารถเก็บไว้ได้นาน ไม่เหม็นหืน แต่จะจับตัวแข็งเมื่อถูกความเย็น ที่สำคัญไม่มีควันเมื่อถูกความร้อนสูง เหมาะแก่การทอดอาหารหรือขนมแบบทอดกรอบหรือแบบน้ำมันท่วม หรือจะใช้ผสมในน้ำผลไม้ลงในน้ำส้มคั้น ใส่แกงจืด ทำเป็นน้ำสลัด ราดบนน้ำแข็งไส ไอศกรีม หรือจะใส่ลงไปพร้อมกับหุงข้าวก็ได้เช่นกัน ซึ่งจะทำให้ข้าวมีความหอม นุ่มอร่อยเป็นพิเศษ
แหล่งอ้างอิง : ภญ.ธนิกา ปฐมวิชัยวัฒน์ ภาควิชาเภสัชพฤกษศาสตร์คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิยาลัยมหิดล,
หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ดร.คิว ลานทอง, สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.), กลุ่มงานพัฒนา
วิชาการแพทย์แผนไทยและสมุนไพร สถาบันการแพทย์แผนไทย, วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เรียบเรียงข้อมูลโดยเว็บไซต์เมดไทย (Medthai)
|